ทหาร 25%

เอาล่ะ ชีวิตทหารสองปี เป็นมาแล้ว 7 เดือน หรือราวๆ 27% รู้สึกว่านานมากๆ เลย เพื่อนมาพร้อมกันที่เป็น 6 เกือนก็ปลดออกไปหมดแล้ว รู้สึกไม่ค่อยดียังไงก็ไม่รู้ วันนี้เป็นวันที่ผมต้องกลับเข้ากรม หลังจากที่ปล่อยกลับบ้าน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์  รู้สึกแย่สุดๆ ตรงที่ไม่กี่วันก็กลับเข้ามาอีกแล้ว เดินเข้ามา ฟังเสียงดนตรีจากดุริยางค์ ก็พอทำให้หายเครียดได้บ้าง แต่ก็แค่ชั่วคราว

ดูเหมือนว่าผมจะเริ่มชินซะแล้ว ไม่ค่อยเหมือนกับตอนที่อยู่ศูนย์ฝึกเท่าใหร่ ที่รู้สึกแย่จนแทบจะร้องไห้อยู่เกือบทุกวัน แต่หลังจากทำใจได้แล้วก็ต้องมาแยกย้ายจากเพื่อนไปอีก เอาเถอะ นั่นมันเรื่องของอดีต

คิดแต่ว่าเมื่อใหร่จะถึงวันปลดของเราซักที ได้แต่นั่งคอยวันเวลา ทำงานให้มันผ่านไปวันๆ….

รายงานตัวเพิ่มเติม

สวัสดีกับผู้อ่านทุกๆ ท่าน ตอนนี้คงเบื่อแล้วสินะที่เจ้าของบล๊อกไม่มาอัพเดทห่าอะไรเลยบนบล๊อกนี้ เจ้าของบล๊อกยังไม่ตายนะครับ ตอนนี้ก็มาแค่บอกให้รู้เฉยๆ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเรื่องอะไรเลย แต่เดี๋ยวอาจจะมีมาโพสบ้าง ก็ดูๆ ละกันครับ 😛

ชีวิตหลังแยกย้ายหน่วยทหารเรือ ตอนที่ 2

เอาล่ะ มาต่อกันครับ หลังจากที่ผมมาตก กพ แล้ว อย่าคิดว่าจะสบายอย่างที่เห็นนะครับ เรื่องเน่าๆ บนกราบพัก กพ เยอะครับ น้องๆ ที่คิดจะมาอยู่นี่ คิดใหม่นะครับ

เดี๋ยวจะเล่ารายละเอียดครับ อยู่ในนี้ พี่แกจะเน้นระบบอาวุโสเหมือนรับน้องสมัยมหาลัย แต่หนักกว่าครับ นี่ขนาดผมมองโลกในแง่ดีสุดๆ แล้วนะเนี่ย คือหาเรื่องแดกได้ทุกวัน รุ่นพี่บ้าอำนาจสุดๆ เรื่องงานไม่เท่าใหร่หรอกครับ เครียดเรื่องพี่ๆ แกมากกว่า ทำดีให้ตายแค่ใหนพี่แกก็หาเรื่องมาแดกอยู่ดีครับไม่ต้องกลัวหรอก

เรื่องกฏนี่ รุ่นพี่อบรมเราทุกวัน แต่รุ่นพี่ก็ปหกกฏซะเองแบบนี้ มันน่านับถือตรงใหนเนี่ย เช่น บอกห้ามใส่รองเท้าเข้ากราบพัก แต่ผมมองที่เท้าพี่แก รองเท้าชัดๆ

ไปๆ มาๆ กลายเป็นบ่นเรื่องรุ่นพี่ซะละ แต่ยังไม่หมดนะ เรื่องทำความสะอาด เอาจริงๆ ถ้าพี่ทุกคนที่นอนอยู่ช่วยกันคนละนิดมันจะไวกว่าเยอะ แต่นี่ให้รุ่นน้องทำอย่างเดียวเลย คิดกันเป็นมั้ยเนี่ย จิตวิทยาการปกครองคนก็ไม่มีกันเลย

จบเรื่องรุ่นพี่ก่อน มาเรื่องงานแผนกบัญชีพลบ้าง งานก็ไม่ค่อยอะไรมาก เซ็นรับเอกสารกองเท่าภูเขาอย่างเดียว กับตรวจสอบเอกสารดีๆ วันแรกผมก็พลาดมาละ แล้วก็ช่วยงานคนอื่นๆ นิดหน่อย อาจจะไม่ค่อยลำบากมาก เหมือนงานออฟฟิตทั่วๆ ไป แต่โดยรวมแล้วผมไม่ค่อยเต็มใจมาเท่าใหร่ ทำให้จิตใจผมเกิดอาการต่อต้านอย่างอ่อนๆ ทำให้รู้สึกเหมือนทำงานไปวันๆ ซะมากกว่า ส่วนงานที่ pvs หรอ ลำบากแค่ใหนก็สู้ตายครับ เพราะงานที่รัก ผมสู้ทุกอย่างต่อให้ลำบากแค่ใหน

ไปๆ มาๆ กลายเป็นบ่นซะละ มีแค่นี้แหละครับ แฮ่ ขอตัวไปทำงานต่อละ

ชีวิตหลังแยกย้ายหน่วยของทหารเรือ

กว่าจะมีโอกาสได้เขียน ฮาาา

หลังจากฝึกเสร็จสองเดือนแล้ว จะมีการย้ายหน่วยเกิดขึ้นตามที่สมัครไว้ หรือใครไม่ได้สมัคร กรือมีคนดึง ก็จะสุ่มตกไป แต่ส่วนใหญ่จะโดน นย นะ ส่วนผมหรอ ตกพลลูกมือ กรมการขนส่งทหารเรือครับ (มีคนดึงมานี่)

ก่อนที่จะเล่าถึงชีวิตที่นี่ ขอเล่าย้อนความไปก่อนนะครับ ตอนแรกผมได้รับเลือกไปทำงาน IT Support ซึ่งเป็นงานที่ผมถนัดเลย ค่อนข้างดีใจมาก แต่แม่บอกอยากให้อยู่ใกล้ๆ บ้าน ไอเราก็คิดว่าจะตกกองรถยนต์ และทำงานสบายๆ ก็เลยยอมไป

เสร็จแล้ว มาฝึกอีกเดือนนึง ซึ่งผมเป็นรุ่นที่ 4 ตอนแรกไม่มีฝึกแบบนี้หรอกครับ มาถึงทำงานเลย แต่มีเรื่องรุ่นพี่ๆ ของเราพาเอาซวย ก็เลยโดนแบบนี้

เอาล่ะมาต่อ หลังจากฝึกเสร็จ มาตก กพ (กำลังพลและธุรการ) ซะงั้น คนที่กองรถยนต์ก็วุ่นเพราะหาตัวผมไม่เจอ ปรากฏว่าผมโดนดึงมาอยู่โดยหัวหน้าเขาซึ่งเขาขัดไม่ได้ ซวยเลยผม ดึงมาไม่ถามความสมัครใจกรูซักคำ เฮ้อ

เอาแค่นี้ก่อน จะแถวเช้าละ เดี๋ยวเที่ยงๆ มาต่อตอนสอง

หลังจากการเป็นทหารเรือกว่า 1 เดือน

กว่าจะได้มาเขียนบล๊อกแชร์ประสบการ เล่นเอาเหนื่อย อีกแปปเดียวผมก็จะกลับค่ายแล้ว วันที่ 18 นี้แหละ เอาจริงๆ ก็มีไดอารี่ที่ผมเขียนอยู่ทุกวัน แต่ไม่กล้าเอามาลง อาย 555555+ พอมาอ่านย้อนอีกที ก็มัวแต่คิดว่า กรูเขียนอะไรไปวะ แต่ก็มีความทรงจำเก็บไว้ในนั้นเหมือนกัน เอาล่ะ เข้าเรื่องก่อน

การเป็นทหารเรือ อย่างน้อยก็ลำบากน้อยกว่าเหล่าทัพอื่นๆ (แต่ก็ถือว่าหนักสำหรับคนร่างกายไม่ดีแบบผมอยู่ดี)

การฝึกนั้น จะแยกเป็นสองเดือน

เดือนแรกนั้น จะเป็นการฝึกท่าทหารราบ คือท่าซ้ายหัน ขวาหัน ขออนุญาตผ่าน ขอเข้าพบผู้บังคับบัญชา ฯลฯ เอาง่ายๆ คือเรื่องระเบียบพื้นฐานนั้นแหละ ส่วนเดือนสองนั้น จะเป็นการฝึกท่าปืน พวก วันทยาวุธ เรียบอาวุธ ท่านั่งยิง นอนยิง (ผมไม่ได้ออกไปฝึกกับเขาเลยซักครั้ง…..)

ทหารเรือนั้น หลังจาก 4 โมงแล้ว จะมีร้านค้าที่เรียกว่า “แผง” ให้เราไปเดินชอปปิ้งกันครับ จะซื้อข้าว ซื้อของกิน ขนม ของฝาก ของใช้ส่วนตัว มีขายหมดครับ ส่วนเรื่องโรงเลี้ยงนั้น สมชื่อสุนัขไม่รับประทานจริงๆ ครับ กินแล้วขี้พุ่งกันเป็นแถบๆ

ส่วนเรื่องความเป็นอยู่นั้น ถามว่าเป็นยังไง? สำหรับผมถือว่าเครียดพอสมควร กว่าจะปรับตัวให้ชินได้ก็ใช้เวลาอยู่ครึ่งเดือน ทั้งๆ ที่ผมเป็นคนปรับตัวง่ายแล้วนะ แต่มาอยู่แบบไม่เต็มใจนี่ มันทำใจให้ชินยากจริงๆ ครับ

วันนี้ไม่ค่อยมีเวลา มาเล่าแค่นี้ก่อนละกันครับ