เมื่อความเชื่อสั่นคลอน ตัวผมจะต้องทำอย่างไร?

Darkside Activated…. (กดอ่านต่อเลย ยาว)

เอาล่ะ อัพบล๊อกเดือน พ.ย กันบ้าง ระหว่างรอใช้ notebook ง่อยๆ ประมวลผลงานที่น่าจะค่อนข้างซับซ้อน (ซึ่งช้าพอสมควร) แต่อยู่กรม ก็มีคอมแค่นี่้ใช้แหละ ถ้าอยู่บ้านนะ แปปเดียวก็เสร็จแล้ว ฮ่าๆ (เขียนไปคอมค้างไป)

เอาล่ะ วันนี้มาด้วยเรื่องส่วนตัว ความเชื่อแต่ก่อนของผมนั้น ได้รับมาจากหลายๆ แหล่ง และปรับมันให้เข้ากับตัวผมเอง แต่ดูท่าความเชื่อนั่นจะเริ่มสั่นคลอนลงเรื่อยๆ

ใครที่รู้จักผมดีนั้น ก็จะรู้ว่า ผมเป็นคนใจดีถึงดีมากเลย ใครขอให้ช่วยอะไรก็จะช่วยเกือบตลอด โดยแทบไม่ขออะไรตอบแทนด้วยซ้ำ และขนาดยังลงทุนเปิดโปรแบบฟรีๆ ทั้งที่เข้าเนื้อมาพักนึง

แต่เรื่องมันก็ไม่ได้ดีอย่างที่คิด

หลังจากความใจดีของผม ถูกนำไปใช้หาผลประโยชน์ของคนบางคน ทำให้ผมค่อนข้างท้อ แต่ก็ตั้งกฏให้กับตัวเอง เปลี่ยนมาเรื่อยๆ เพราะพักหลัง ผมก็ไม่ช่วยใครมั่วๆ แล้ว เห็นใครเดือดร้อน ถ้าเขาไม่เกี่ยวกับเรา หรือไม่ใช่หน้าที่อะไรของเรา ผมก็จะไม่เข้าไปช่วยเหลืออะไรเลย (ยกเว้นคอมมอน พวก ลุกให้คนแก่ เด็ก นั่งบนรถไฟฟ้า หรือช่วยยายแถวบ้านเข็นรถขึ้นทางชัน อันนี้ผมยังทำอยู่) ดูเห็นแก่ตัวใช่มั้ยครับ? แต่ก็ต้องทำ เพราะผมก็รำคาญแล้วเหมือนกัน บางเรื่องผมก็ไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย หลังๆ ผมเลยสงวนไว้เฉพาะกับคนพิเศษเท่านั้น เช่น เพื่อนสนิทจริงๆ หรือแฟน อะไรประมาณนี้

แล้วก็นิสัยที่ควรแก้ของผม ก็น่าจะเป็น ห่วงแต่คนอื่น แต่กลับไม่ห่วงตัวเองเลย ทั้งๆ ที่พี่ชายก็เคยเตือนแล้ว แต่เดี๋ยวนี้ก็ดีขึ้นมาก เพราะยึดถือไว้แค่เรื่องเดียว คือ ห่วงเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับหน้าที่ตัวเองพอ เรื่องของคนอื่นไม่ต้องไปสนใจเขา ใครจะเดือดร้อนอะไรก็ช่างเขาไม่เกี่ยวกับเรา อันนี้ OK

มาต่อเรื่องสำคัญ เรื่องแนวคิดในการดูแลสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า แฟน หรือคนรัก

ก่อนมาอ่าน มาฟังเพลงให้เข้ากับบรรยากาศก่อน แฮ่

จริงๆ เรื่องนี้มันจบไปนานแล้วแหละ แต่อยากเอามาลงบล๊อกซักหน่อย ไม่งั้นเก็บกดตายแน่ๆ เรื่องของเรื่องคือ แฟนเก่าผมคนนึง (อยากรู้ว่าใครหาอ่านในบล๊อกเก่าๆ) ทุกวันนี้มีลูกมีครอบครัวไปละ แต่ที่เอามาเล่าให้ฟัง เพราะอยากรู้จริงๆ แฟนผมคนก่อนๆ ที่ผ่านมาก็ลักษณะนี้ เอาคนนี้เป็นหลักละกัน เพราะคนนี้คบอยู่นานสุดนั่นคือ 4 ปี เลยมีความทรงจำเกี่ยวกับเขามากหน่อย ระหว่างที่คบนี่ เขาไม่เคยพาไปแนะนำตัวกับพ่อแม่เลยซักครั้ง (บ่นไปบล๊อกเก่าๆ แล้วเรื่องนี้ ย้อนอ่านเอาละกัน) แต่หลังจากที่เลิกกับผมไป ก็ไม่ได้ติดต่อกันอยู่พักนึง จนมาเร็วๆ นี้ เขาก็มีแฟนใหม่ (ไม่รู้คบกันเกินปีมั้ย ไม่อยากรู้ ไม่อยากถาม) แล้วก็ได้ข่าวว่าดันท้อง แล้วโดนทิ้ง แล้วหนีออกจากบ้านไป

มาถึงตรงนี้เห็นอะไรแปลกๆ หรือยังครับ? ถ้ายังเดะเล่าต่อ

และเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ แฟน (คนที่ทิ้งเขาไป) มาขอขมากับพ่อแม่ของเขา พร้อมสินสอดหมั้นใส่พานมา รวมมูลค่าแสนกว่าๆ (มาหลังจากลูกคลอดแล้ว?) แล้วก็อยู่ด้วยกัน

ถ้ายังไม่เห็นอะไรแปลกๆ อีก เดวจะอธิบายรายละเอียดละกัน

เรื่องนี้เคยเอาไปปรึกษากับพี่ชายผม เพราะเขาเคยเรียกค่าสินสอดแต่งงานตั้ง 5 แสน ด้วยความสามารถของผม ผมหาได้อยู่แล้ว ก็เลยไปคุยเล่นกับพี่ชาย พี่ชายบอก เมิงอยากลดค่าสินสอดเหลือแสนเดียว หรือน้อยกว่านั้น มั้ย ผมบอกว่าอยาก พี่ผมเลยบอกผมว่า ง่ายนิดเดียว เมิงไปจิ้มให้เขาท้องซะ แล้วค่อยไปขอแต่ง รับรอง ลดฮวบๆ ผมยังแอบขำ พี่ก็รู้ว่าผมคงไม่ทำแบบนั้นแน่ๆ ด้วยนิสัยที่ผมถือเรื่องให้เกียรติผู้หญิงมาก ถ้าไม่ใช่แฟน หรือเพื่อนสนิทกันจริงๆ จะแทบไม่แตะตัวเลยถ้าไม่จำเป็น แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นมาทำเอาผมมานั่งคิด

ที่กรูให้เกียรติผู้หญิง ทำให้ระยะเวลา 4 ปีมันไม่คืบหน้า? มันเลยทำให้ความเชื่อนี้ผมเริ่มสั่นคลอนลงเรื่อยๆ เพราะเขามาแค่ปีเดียว แถมสินสอดถูกกว่าผมอีก แต่ได้มีครอบครัวกันแล้ว ก็เลยแอบรู้สึกน้อยใจบ้าง แต่ก็ช่างเถอะ พี่ผมบอก ไม่มีครอบครัว ไม่มีภาระ เป็นอิสระที่จะไปใหนก็ได้ อย่างเอ็งไถหมอนข้างลายการ์ตูนไปก่อนก็แล้วกัน

จริงๆ มันก็ไม่ใช่เขาคนเดียวหรอก ที่ผ่านมาก็มีอีกคน ที่ลักษณะคล้ายๆ กัน แต่ผมขอไม่กล่าวถึง ณ ที่นี้นะครับ

จริงๆ ก็อยากปรึกษาเรื่องนี้กับใครซักคน แต่ถ้าผู้หญิงที่เราชอบ มาเห็นแบบนี้คงมองเราไม่ดี พี่ก็บอก ถ้าแค่นี้เขามองเราไม่ดี ไม่ต้องไปจีบต่อ ผู้หญิงคนนี้คบด้วยเดี๋ยวก็ทิ้งเราไปเหมือนคนก่อนๆ ถ้าเป็นผู้หญิงที่เราสามารถคุยได้ทุกเรื่องอย่างสนิทใจ ไม่ว่าเรื่องนั้นจะทะลึ่งหรือลามกแค่ใหนเขาก็ไม่ถือ นั่นแหละคนที่ผ่านคุณสมบัติ (มีอยู่ 2 คนนะครับ แต่เสียดายเป็นได้แค่เพื่อน… คนนึงผมก็เคยแกล้งกอดเขาเล่น เขาก็ไม่ว่าอะไร ถ้าผู้หญิงทั่วไปที่ไม่สนิท ผมคงไม่กล้าทำแบบนี้แน่ๆ)

พี่เขาก็คงอยากให้ผมเปลี่ยนในหลายๆ เรื่อง ดีบ้างร้ายบ้าง บางครั้งถ้าจำเป็นก็ต้องสวมหน้ากากผู้ชายโหดๆ บ้าง แค่สวมหน้ากากนะ อย่าไปทำเป็นนิสัย เพราะถ้าเราใจดีกับผู้หญิงเกินไป ตามใจเขามากเกินไป เขาก็จะเห็นเราเป็นแค่ของตายเท่านั้น

พี่ผมอ่านใจคนขาดมาก แค่เล่าเรื่องของเขาคร่าวๆ ให้ฟัง เขาก็บอกลักษณะนิสัยของคนๆ นั้นได้หมดเลย รวมทั้งสิ่งที่เขากำลังคิด (แต่อาจมีถามเพิ่มเติม) ผมเลยไปขอคำแนะนำจากเขาบ่อยๆ ซึ่งผมทำไม่ได้ขนาดนั้นเลย อย่างมากแค่คาดเดาความคิดคร่าวๆ เพื่อใช้ป้องกันตัวเองเท่านั้น (ฝึกกันได้ แค่จิตวิทยาพฤติกรรมมนุษย์) รวมทั้งเรื่องแฟนคนก่อนที่กำลังคิดจะทิ้งเราไปด้วย ซึ่งมันตรงอย่างที่คุณพี่บอกเกือบทุกอย่างราวกับอ่านใจเขาได้เลย

วันนี้พอแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน ขอตัวไปทำงานต่อละครับ แว้บบ

ใส่ความเห็น