ใหนๆ ก็ใหนๆ มาเล่าเรื่องๆ นึงก่อนที่จะไปทหารซักหน่อยจะดีกว่า ใหนๆ นี่ก็บล๊อกของผม ก็ไม่อยากเขียนเรื่องอะไรยาวๆ ลงบนเฟสซักเท่าใหร่
เผื่อจะมีใครอยากรู้ว่าที่มาของ
– การรักษาสัญญาของผม ที่เป็นคนเข้มงวดเรื่องนี้มาก- เป็นคนที่ค่อนข้างตามใจคนที่เป็นแฟนตัวเอง
– ความสามารถในการมองเห็นอนาคตสั้นๆ (ไม่เกิน 1 วัน //มีข้อแลกเปลี่ยนคือ ทุกครั้งหลังจากที่ใช้ ผมจะเกิดอาการเวียนหัวทุกครั้ง //จำอาการนี้ไว้นะครับ ถ้าเกิดสังเกตุว่าผมเวียนหัวโดยไม่ทราบสาเหตุ นั่นแหละครับ ผมกำลังใช้ความสามารถในการมองอนาคตอยู่) โดยส่วนใหญ่แล้ว จะมองว่า หลังจากนี้ จะเกิดเหตุการณ์อะไรไม่ดีหรือไม่ หรือเหตุการณ์อะไรที่ร้ายแรงมั้ย เพื่อจะได้แก้ไขได้ โดยไม่ต้องมีอะไรร้ายแรง และสามารถใช้มองคนได้เหมือนกัน ว่าเขาเป็นมิตรหรือศัตรู และในกรณีที่เกิดเหตุร้ายแรงไปแล้ว จะสามารถแก้ไขได้ยังไงบ้าง อะไรพวกนี้ (ประมาณว่า มองทุกเส้นทางของ Timeline ว่า ถ้าผมเลือกแบบนี้ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง)
– ความสามารถในการ “ขออะไรก็ได้ ที่เป็นไปได้ ไม่จำกัดครั้ง” //มีข้อแลกเปลี่ยนคือ ต้องเสียอะไรในชีวิตของผมไปแบบสุ่ม จะมากน้อยขึ้นอยู่กับคำขอ ว่าขอมากแค่ใหน เลือกไม่ได้ว่าจะเสียอะไร และไม่สามารถขออะไรที่เกี่ยวกับชีวิตคนได้ (แบบขอให้ใครตาย หรือขอให้คนกำลังจะตายรอด อันนี้ไม่ได้) และตราบใดที่คำขอยังไม่ทำงาน จะสามารถเปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกได้ (ในกรณีที่ขอไปแบบไม่ทันได้คิด หรือรู้ตัวว่าจะต้องเสียสิ่งสำคัญไปแลกกับคำขอนั้น)
สองอันหลัง ทำไมผมถึงรู้ว่าผมมี? ความสามารถในการมองเห็นอนาคตนั้น ได้มาทีหลังจากเหตุการณ์นึง ซึ่งเดี๋ยวผมจะเล่าต่อไป ส่วนความสามารถในการ “ขออะไรก็ได้” อันนั้นรู้ตัวตอนช่วงประถมครับ ซึ่งทุกๆ ครั้งที่ผมขอเรื่องอะไรเล็กๆ ไป (ตอนนั้นยังไม่รู้ตัวว่ามันต้องเสียอะไรเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนด้วย) ซึ่งทุกคำขอของผมนั้น เป็นจริง 99% จนผมคิดว่าไม่ใช่เหตุบังเอิญแน่ๆ จะยกตัวอย่างคำขอสำคัญๆ ที่ผมเคยขอไว้ และมันเป็นจริงนะครับ
ตอน ป.4 นั้น ผมเกลียดอาจารย์คนหนึ่งมาก จนผมเผลอขอให้อาจารย์คนนั้น ไม่มาโรงเรียนอีก ไม่กี่วันต่อมา ผมก็ทราบว่า อาจารย์คนนั้นที่ผมเกลียด ต้องเข้าโรงพยาบาลไปเพื่อตัดขา จากแผลของเบาหวาน จึงไม่สามารถมาสอนได้อีกนาน (ผมไม่เจออาจารย์คนนั้นเลยจนกระทั่งเกือบจะเรียนจบ) และไม่กี่วันจากนั้น สิ่งแลกเปลี่ยนก็เข้ามา…
ผมเกิดอุบัติเหตุ แบบที่ไม่น่าจะเกิดได้ จนทำให้นิ้วหัก (แต่ดามเฝือกซะครึ่งแขน //นับว่าพระเจ้ายังปราณีผมนะเนี่ย ที่อุบัติเหตุแรงขนาดนั้น แต่แค่นิ้วก้อยมือขวาหัก) ทำเอาผมไปโรงเรียนไม่ได้เกือบอาทิตย์ และหลังจากที่หมออนุญาตแล้ว ผมก็เขียนหนังสือแบบทุลักทุเลมาก เพราะดามเฝือกที่มือขวา
คำขอต่อไป ตอนนั้นเรียนอยู่ ปวช1 ซึ่งตอนนั้น ผมไม่ตั้งใจเรียนอย่างแรง หลับในห้องเรียนขณะเขาสอน การบ้านไม่ส่ง จนอาจารย์หลายๆ ท่านไม่พอใจอย่างมาก ผลคือ เกรดเฉลี่ยผมได้ 1.91 ซึ่งถือว่าหลุดทุนการศึกษา ต้องจ่ายค่าเทอมเต็ม (ซึ่งแพงมาก) ผมถึงขั้นตกใจ และเผลอขอไปว่า “ขออย่าให้หลุดทุนเลย”
ผลก็คือ หลังจากผมสอบซ่อมเสร็จ ระบบ Database เกรดของโรงเรียนมีปัญหา ทำให้ต้อง key คะแนนไปใหม่ ซึ่งการ key เข้าไปใหม่นั้น เอาคะแนนหลังจากสอบซ่อมของผมรวมไปด้วย ทำให้เกรดใหม่ของผม เป็น 2 กว่าๆ (ซึ่งไม่หลุดทุน) ทำให้ผมไม่ต้องจ่ายค่าเทอมที่แพงมหาโหด (หลังจากนั้นถึงตั้งใจเรียน)
สิ่งแลกเปลี่ยนนี้ ผมขอไม่บอกละกัน แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับเงินๆ ทองๆ นี่แหละ (ซึ่งไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่ผมขอไปเลย)
เอาล่ะ คราวนี้มาพูดเรื่องความสามารถในการ “มองเห็นอนาคต” และ นิสัยรักษาสัญญา ตามใจแฟนตัวเอง บ้าง
เหตุการในครั้งนั้น เกิดขึ้นตอนที่กำลังจะสร้าง Project Audition Agent ใหม่ๆ (หลังจากทำขีดแดงไปได้ซักพัก) ตอนนั้นอยู่ประมาณ ม. ต้นได้ ตอนนั้นผมได้คบอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง บ้านอยู่ไม่ใกลกันมาก ห่างกันไม่กี่ป้ายรถเมล์ แต่เรียนอยู่คนละโรงเรียนกัน ช่วงวันหยุด เสาร์ อาทิตย์ เธอชอบมานั่งเล่นที่บ้านผมบ่อยๆ และคอยช่วยเหลือในเรื่องการเขียนโปรแกรม Audition Agent ถึงจะไม่รู้เรื่องโปรแกรมมิ่งเลยทั้งคู่ แต่เธอก็ช่วยผมเต็มที่ และแย่งเล่นคอมบ้างเป็นบางครั้ง
ในขณะที่ผมอยู่กับเธอนั้น ผมเป็นคนที่ผลัดวันประกันพรุ่ง อะไรก็พรุ่งนี้นะๆ เช่น เธอขอให้ซื้อตุ๊กตาตัวหนึ่งให้หน่อย ผมก็ตกลงจะซื้อให้ แต่ก็ลืมจนเธอต้องมาทวง ผมก็บอก ไว้พรุ่งนี้ละกัน เตือนด้วยละ เธอก็ตอบตกลงหน้ามุ่ยๆ โดยที่ผมไม่รู้เลยแม้แต่น้อยว่า “มันไม่มีวันพรุ่งนี้สำหรับเธออีกแล้ว…”
วันนั้น เป็นวันเสาร์ เธอมาบ้านผมเพื่อมานั่งเล่นเกม Audition กัน เธอก็ช่วยผมแนะนำเรื่องโปรว่า เธออยากได้โปรอะไร ประมาณนี้ ถึงความสามารถตอนนั้นผมจะไม่ถึง แต่ก็พอเขียนโปรแกรมเบื้องต้นเป็นแล้ว รวมทั้งเธอด้วย ก็ผลัดกันเขียน ผลัดกันเล่น เป็นเรื่องสนุกอย่างหนึ่งไป ตอนเที่ยงๆ เธอก็บ่นนิดหน่อย ใหนบอกว่าวันนี้จะซื้อตุ๊กตาหมีให้ไง ผมก็ตกใจ เพราะลืมไปซะสนิท ผมเลยบอกว่า พรุ่งนี้ก็แล้วกันนะ เธอก็ทำหน้าโกรธ แล้วบอกว่า ก็ได้ๆ (เธอคงชินแล้ว)
ตอนนั้นเป็นเวลา 6 โมง 40 นาทีกว่าๆ ผมเห็นว่าเริ่มมืดแล้ว เลยบอกให้เธอกลับบ้านไปก่อน เดี๋ยวพ่อแม่จะเป็นห่วง ผมเดินออกมาส่งเธอที่ป้ายรถเมล์หน้าปากซอยบ้าน ซึ่งรถเมล์ที่นั่งกลับบ้านเธอนั้น อยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งใกล้ๆ นั้นมีสะพานลอยอยู่ แต่ด้วยความเคยชิน เธอจึงเดินข้ามถนนแทน ในขณะที่ปล่อยมือเธอที่ผมจูงมาด้วยตลอดทางนั้น ผมก็โบกมือลาเธอ เธอก็เดินข้ามถนนไป โดยผมและเธอไม่ทันสังเกตุว่า มีมอเตอร์ไซคันหนึ่ง วิ่งมาด้วยความเร็วสูง และมันก็ชนเธอเข้าอย่างจัง
วินาทีที่เห็นภาพที่เธอโดนมอเตอร์ไซคันนั้นชนนั้น เหมือนเวลา 1 วินาทีผ่านไปช้ามาก ผมเห็นเธอกระเด็นไปใกลกว่า 3 เมตรตามแรง กลิ้งหลายตลบ และแน่นิ่งไปกับพื้น (มอเตอร์ไซคันนั้นก็บิดหนีไปเลย) ผมตกใจอยู่ซักพัก จึงวิ่งไปหาเธอ ตอนนั้นเหมือนเธอจะสลบไปแล้ว แต่ยังหายใจอยู่ ด้วยสภาพที่เลือดใหลออกมาค่อนข้างเยอะมาก และมีผู้ชายคนหนึ่งผ่านมา โทรเรียกตำรวจ กับเรียกเพื่อนมาเพื่อเอารถพาเธอไปส่งโรงพยาบาลใกล้ๆ ให้ และช่วยอุ้มเธอกลับมายังป้ายรถเมล์ฝั่งผม
ผ่านไปประมาณ 10 นาที รถกระบะเพื่อนเขาถึงมา ลุงคนนั้น อุ้มเธอขึ้นไปบนที่นั่ง และให้ผมตามไปด้วย และขับรถไปโรงพยาบาลใกล้ๆ นั้น หลังจากถึงโรงพยาบาลแล้ว ผมก็ไม่รู้เหตุการณ์อะไรเกี่ยวกับเธออีก ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง พ่อแม่เธอก็มาถึง (ผมโทรไปบอก) และนั่งร้องไห้อยู่ในโรงพยาบาล ห้องฉุกเฉิน (มั้ง??) และถึงมีตำรวจมาเพื่อสอบปากคำผม กับคุณลุงที่พามาในฐานะพยาน แต่ผมก็จำทะเบียนรถคันนั้นไม่ได้ จึงหาตัวคนชนมาลงโทษไม่ได้
ในเวลานั้นเอง คุณหมอก็ออกมาบอกข่าวร้าย เธอเสียชีวิตแล้ว…. เสียชีวิตไปก่อนที่จะมาถึงโรงพยาบาล… แม่ของเธอถึงกับเสียสติ และปล่อยโฮออกมาตรงนั้น ส่วนผม ก็เกิดอาการช๊อกอยู่ตรงนั้น จนเผลอไปขอว่า “แลกกับอะไรก็ได้ ขอให้เธอฟื้นขึ้นมาที” แต่คำขอนั้น กลับไม่เป็นจริง ทั้งๆ ที่มันเคยเป็นจริงมาตลอด…
หลังจากกลับมาบ้าน วันรุ่งขึ้น ผมซื้อตุ๊กตาที่เธออยากได้มา ตามสัญญา แต่ไม่มีเธออยู่แล้ว ไม่มีคนรับแล้ว ผมกอดตุ๊กตาตัวนั้น พร้อมกับร้องไห้ (ปัจจุบัน ตุ๊กตาตัวนั้น ให้น้องชายเธอไปเก็บไว้แทน) และอยู่ในสถานะจิตตกอยู่เกือบเดือน ทำให้ Audition Agent ตัวแรกปล่อยออกไปค่อนข้างช้า หลังจากนั้น ผมถึงได้ขออีกอย่างหนึ่ง คือ “อยากได้อะไรก็ได้ ที่ใช้ปกป้องคนที่ผมรักได้” ผมจึงได้ความสามารถในการมองเห็นอนาคตมา (ซึ่งมารู้เอาทีหลัง ว่ามันคืออันนี้ หลังจากผ่านไปเกือบปี ที่รู้เพราะ อยู่ดีๆ มักจะมีภาพแว๊บมาในสมองผม และสิ่งที่แว๊บมาในสมองผมนั้น มักจะเกิดขึ้นจริงๆ ราวกับว่ามันต้องการจะเตือนผม และหลังจากนั้น ผมก็เกิดอาการเวียนหัวคล้ายๆ กับกำลังจะเป็นลมแดด) แต่คำขอนี้กลับไม่เสียอะไรเป็นการแลกเปลี่ยน??
และสิ่งที่ทำให้ผมรักษาสัญญา กับ ตามใจคนที่เป็นแฟน ก็คือ ผมคิดขึ้นมาได้หลังจากเหตุการณ์นั้นว่า เราไม่รู้ว่าเราจะเสียเขาไปเมื่อใหร่ หรือไม่รู้ว่าจะมีวันพรุ่งนี้มั้ย ผมจึงตั้งกฏกับตัวเองว่า จะรักษาสัญญาที่ผมให้ไปให้ดีที่สุด และจะขอทำเพื่อผู้หญิงที่ผมรัก ก่อนที่จะจากกันไป เพราะอย่างน้อย “ผมก็ทำเพื่อเขาดีที่สุดแล้ว” เพื่อจะได้ไม่ต้องมาเสียใจทีหลัง
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น