เธอไม่มีเวลาหรือผมว่างมากเกินไป

เอาจริงๆ ก็ไม่ค่อยอยากจะเขียนหรอกเรื่องนี้ (แต่ก็เขียนจนได้นะแก) แต่ถ้าเก็บไว้ มีแต่จะทำให้ผมเครียดซะเปล่าๆ แต่ก็นะ ดึกขนาดนี้จะไปรบกวนใครเขามาฟังปัญหาชีวิตก็คงใช่เรื่อง (เช้าแล้วแหละไม่ใช่ดึก) แต่ผมว่า ถ้าคนอ่านมาอ่านๆ เรื่องนี้เข้า คงจะบ่นอุบแหงๆ ว่ามุงจะเล่าแต่เรื่องเดิมๆ ทำไมวะ = = แล้วก็คงจะเมินหน้าหนี แต่เอาเถอะ ถ้ามีเหตุการทำนองนี้เกิดขึ้นบ่อย ก็จะเขียนบ่อยขึ้น (เอ๊ะ ยังไง?) ยังไงผู้อ่านก็อย่าเพิ่งเบื่อกันซะก่อนล่ะ ฮ่าๆ (กด อ่านต่อ เลย เดี๋ยวรกหน้าแรก)

เหตุการณ์ทำนองนี้ เกิดกับผมอยู่เนืองๆ แต่ก็ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยจนได้ ให้ตายเถอะ มีแฟนกี่คนก็เป็นแบบนี้ทุกคน สวรรค์จะลงโทษอะไรก็ให้มันมีขอบเขตหน่อยสิ(วะ) ไอการที่พักหลังๆ ชวนไปใหนก็ไม่ว่างบ้าง ติดธุระบ้าง นั่นๆ นี่ๆ บลาๆ จนพักนี้ไม่ได้เจอกับแฟนตัวเองมาพักใหญ่ๆ ละ โดยเฉพาะเมื่อวันเกิดผมที่ผ่านมา ตอน 28 ตุลา (ที่ผ่านมา? นี่จะเดือนแล้วนะ) เอาจริงๆ ก็กะจะชวนแฟนมาเดินเล่นงาน PPFF 2013 ตั้งแต่ 26 ตุลาแล้ว แต่พี่แกดันไม่ว่างทั้งสองวัน โอเค ไอเราก็ยังพอรับได้ แต่ก็ย้ำตลอดว่าวันเกิดผมให้มาด้วย สุดท้าย พออยู่บน BTS โทรไปก็ดันบอกว่าไม่ว่าง เดี๋ยวขอเลี้ยงนอกรอบ ขอบคุณครับ ช่วยได้มากกกกกกก อุส่าย้ำนักย้ำหนา บริหารเวลากันไม่เป็นเลยหรือไงฟะ (ไม่รู้ว่าตอนโทรศัพท์ เพิ่อนที่ยืนข้างๆ ผมบน BTS จะสังเกตุปฏิกริยาที่เกิดขึ้นกับผมได้หรือเปล่า ไออาการที่โกรธจนตัวสั่นแต่ปากก็ต้องพูดไปว่า ไม่เป็นไร) แล้วไอนอกรอบนี่ ผมรออยู่นะคร๊าบ เอาจริงๆ ก็อยากจะวีนแตกไปตรงนั้นแต่ก็เกรงใจเพื่อนๆ ที่ยืนข้างๆ กับคนบน BTS ไม่งั้นผมคงวีนแตกไปละ เพราะไอนอกรอบที่ว่า มันชดเชยวันเกิดของผมที่มีปีละครั้งไม่ได้หรอก เพราะหลังจากนั้นมันก็ไม่ใช่วันเกิดผมแล้ว (บวกลบ 1 วัน ยังพออนุโลม) เอาเถอะ เรื่องยังมีก่อนหน้านั้นอีก

งาน Meeting PVS ที่ผมก็ย้ำนักย้ำหนา ว่าจ่ายตังในส่วนของเขาให้แล้ว ให้มาด้วย อุส่าออกตังให้เพราะคิดว่าจะทำให้ตัดสินใจง่ายขึ้นว่าจะมามั้ย ย้ำไปตั้งหลายรอบ สุดท้าย ตามที่ผู้อ่านคิดแหละครับ ไม่มา (เสื้อพี่แกยังอยู่ที่ผมเลย ไม่มาเอาด้วย – -) ให้มันได้อย่างงี้สิครับ แบบนี้ผมคงไม่ออกอะไรให้คุณก่อนแล้วแหละ เสียความรู้สึกอย่างแรง ข้ออ้างครั้งนี้ก็ราวๆ ไม่รู้จะบอกแม่ยังไงว่าออกมากับแฟน (พูดยากนักหรอ ออกมากับแฟนตัวเองเนี่ย? ถ้าเขาไม่เชื่อใจผมก็ให้เบอร์ผมไปคุยเลย เดะผมคุยเอง ถ้าแม่เธอไม่ยอมรับผม ก็จบกันตรงนั้น เพราะมันเป็นความผิดผมเองที่ทำให้พ่อแม่แฟนตัวเองยอมรับในตัวผมไม่ได้ ผมจะไม่โทษใครเลย)

แต่เขียนไปอารมณ์ชักขึ้นจริงๆ ซะแล้วสิ อุส่าลืมๆ อารมณ์โกรธอะไรแบบนั้นไปแล้วแท้ๆ พอนึกก็ดันโมโหขึ้นมาอีกจนได้ -_- ภาพลักษณ์คนโกรธไม่เป็นเสียหมด แต่ตอนนี้คงไม่ใช่เวลามาเป็นห่วงเรื่องภาพลักษณ์อะไรนั่นหรอก ปล่อยๆ มันออกมาให้ความเครียดมันลดลงบ้าง เดี๋ยวจะเป็นบ้าไม่ต้องทำงานการกันพอดี (เพื่อนร่วมงานลำบากอีก) ไอเราก็น้อ ใจดีเกินไปจนเขาไม่เห็นค่าในสิ่งที่เราให้ไปเลยหรือไง ทั้งๆ ที่เราไม่เคยขออะไรจากเขาเลยนอกจากให้มาเจอกันบ้าง อยู่ด้วยกันบ้าง แต่ก็นะ ไม่เคยจะได้อะไรกลับคืนมาเลย นี่กรูกำลังเขียน Assembly ให้คอมพิวเตอร์เหมือนตอนกำลังเรียนอยู่มหาลัยใช่มั้ยครับ?? นั่งโปรแกรมกันเป็นชั่วโมงๆ สุดท้ายก็ได้ข้อความว่า Hello World ขึ้นมาบนจอแค่บรรทัดเดียว (โดยปกติ C++ เขียนไม่ถึงนาทีก็เสร็จแล้ว) หากเทียบแฟนผมเป็น Assembly อะนะ ไม่ต่างอะไรกันเลยจริงๆ เป็นภาษาที่ลงแรงไปเยอะ แต่ผลตอบแทนที่ได้กลับมาแค่นิดเดียว

แล้วไอคติ ทำดีอย่าหวังผลตอบแทน หายไปใหน?

ไม่ได้หายไปใหนหรอกครับ แค่คตินั้นมันไม่มีอยู่บนโลกจริงๆ มาตั้งแต่แรกแล้ว (ไว้จะอธิบายในเอนทรี่หน้า เรื่อง “ทำดีไม่หวังผลตอบแทน มีจริงบนโลกนี้หรือ?”)

ในเมื่อเขาทำกับเราแบบนี้ เอาคืนซะให้สาสมเลยสิ?

ขออภัยสำหรับผู้อ่านที่จิ้นให้ผมเป็นคนโหดร้ายขนาดนั้นนะครับ ชีวิตจริงๆ ผมไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้น ผมถือคติอีกอย่างว่า “อยากให้ผู้อื่นปฏิบัติกับเราอย่างไร เราก็ปฏิบัติกับเขาอย่างงั้นก่อน” และ “จุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด คือตัวเราเอง” ผมก็เลยไม่ทำอย่างงั้นหรอก เดี๋ยวจะกลายเป็นแก้แค้นกันไปกันมา ไม่มีที่สิ้นสุดซักที ยอมให้เรื่องทั้งหมดมันจบๆ ไปที่ผมเป็นคนสุดท้ายดีกว่า (พ่อพระจริงๆ นะแกเนี่ย)

ยังคงมีอีกเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นหมาดๆ แต่ผมขอยังไม่พูดถึงในเอนทรี่นี้ก็แล้วกัน แต่ถ้าถึงเวลาเมื่อใหร่ผมก็คงหยิบยกมาพูดถึงเข้าซักวัน
แต่ขอพูดทิ้งท้ายในสิ่งที่ผมดื้อรั้นกับคำสอนพี่ชายมาตลอดละกัน (เป็นน้องที่เชี่ยมาก = =)

สิ่งที่เราให้ผู้หญิงไป ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่มีมูลค่ามากน้อยแค่ใหน แต่ถ้าหากเราไม่ตั้งเงื่อนไขในการให้เขาเลย ผู้หญิงก็จะไม่เห็นค่าของสิ่งของที่เรา ซึ่งเป็นคนรักของเขาให้ไป เขาก็จะคิดแต่ว่า มีอะไรก็ขอแฟนตัวเอง ยังไงเขาก็ให้อยู่แล้ว เหมือนเกมจีบสาว ที่หากเราเล็งจีบใคร เราก็คงไม่เลือกรูทที่ค่าความรักของตัวละครไม่เพิ่มขึ้น หรือเพิ่มขึ้นแต่ช้าๆ อยู่แล้ว ชีวิตจริงก็เช่นกัน เพราะฉะนั้น หากจะให้อะไรคนรักของเรา ถึงแม้เราจะไม่หวังอะไรตอบแทนมาเลยก็ตาม เราก็ควรจะตั้งเงื่อนไขให้เขาทำตามก่อนที่เราจะให้ด้วย เขาจะได้เห็นค่าของสิ่งที่เราจะให้ไป

แต่เราก็ไม่เคยทำตามคำสอนนี้ของคุณพี่เลยซักครั้ง = = (เขาขออะไรก็ให้ เผลอๆ ให้โดยที่เขาไม่ได้ขอเลย ผลก็เลยราวๆ นี้ละมั้ง) อันที่จริง เขาก็สอนอะไรผมมากมาย แต่ก็ทำตามบ้างไม่ทำตามบ้าง เพราะคำสอนของเขาผมก็เอามาปรับใช้กับชีวิตตัวเองอยู่แล้ว (ถึงจะเพี้ยนๆ ไปบ้างก็เถอะ)

ใส่ความเห็น